เบาหวานชนิดที่2 หายได้ สมาคมเบาหวานระดับโลกประกาศอย่างเป็นทางการแล้ว
ล่าสุดวันที่ 30 สิงหาคม 2564 เป็นเรื่องที่น่าดีใจเป็นอย่างยิ่งค่ะ ว่าสิ่งที่หมอปอพยายามให้ความรู้มาตลอด 2 ปีกว่าที่ผ่านมา และคุณหมออีกหลายๆท่าน ที่พยายามบอกมาตลอดหลายปี ว่าเบาหวานชนิดที่2 หายได้ เพียงแค่คุณปรับวิถีการใช้ชีวิตใหม่ ให้มีสุขภาพดี และโรคเบาหวานชนิดที่2 ที่เจอในผู้ใหญ่ ไม่ได้รักษาด้วยยา
แล้วก็มีหลักฐานคนไข้มากมายที่หมอปอได้ดูแลมา รวมถึงท่านที่ติดตามเพจหมอปอ รวมถึงช่องยูทูป ที่หายแล้วกว่าหลายพันคน
ผลลัพธ์และความสำเร็จของคนไข้ที่ผ่านมานี้ อาจเป็นเพียงแค่เสียงเล็กๆ ที่ค่อยๆขยายหลักฐานความสำเร็จออกไปอย่างช้าๆ
แต่มาถึงวันนี้ ตอนนี้ ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการแล้วนะคะ ว่า
เบาหวานชนิดที่2 ที่เป็นตอนผู้ใหญ่ “หายได้”
ซึ่งทางสมาคมเบาหวาน ทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร รวมถึงยุโรป ได้เพิ่มเกณฑ์ของเบาหวานชนิดที่2 ว่าหายได้ และคำแนะนำ มาดังนี้ค่ะ
1.น้ำตาลสะสม (HbA1C) น้อยกว่า 6.5% ต่อเนื่องเป็นเวลาอย่างน้อย 3 เดือน โดยไม่ใช้ยาใดๆ
2.สามารถดูจาก FBS (Fasting blood glucose) แทนได้ โดยน้อยกว่า 126 mg/dL
3.ให้ตรวจน้ำตาลสะสม HbA1C เป็นบันทึก ก่อนการรักษาและ ก่อนการถอยลดยา และให้ติดตามผลหลังจากการรักษา ในอีก 3 เดือน
4.การตรวจติดตามหลังจากหายแล้ว ควรตรวจอย่างน้อย ทุกๆ 1 ปี
เป็นที่น่าดีใจมากที่คนไข้ได้มีทางออกอย่างเป็นทางการแล้ว ช่วยกันแชร์ประกาศไปให้ถึงคนที่คุณรักด้วยนะคะ และเพิ่มเติมจากประสบการณ์ของหมอปอที่ดูแลคนไข้โดยไม่ใช้ยามาตลอด หลังจากที่ น้ำตาลสะสมลดลงมาตามเกณฑ์ได้แล้ว คนไข้มีความรู้ในการใช้ชีวิตอย่างถูกต้องแล้ว ตามหลัก 3 หัวใจสำคัญ ที่ทำให้รักษาเบาหวานได้สำเร็จ อย่างยั่งยืน และไม่ทำให้กลับมาเป็นซ้ำอีก
นั่นคือ
1.รู้จักสารอาหารที่ทาน
ปรับสารอาหารให้เหมาะสมกับร่างกาย เมื่อหายแล้วกลับมาทานแป้ง ทานคาร์โบไฮเดรตได้อย่างถูกวิธี และไม่ทำให้น้ำตาลขึ้น สิ่งที่ควรปรับในช่วงที่เริ่มรักษา เบาหวานชนิดที่2 โดยไม่ใช้ยา นั่นคือการ “ลดแป้ง” หรือ อาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต ได้แก่ ข้าว แป้ง เส้น ขนมปัง เผือกมัน ฟักทอง ข้าวโพด ผลไม้ทุกชนิด ธัญพืช ผักบางประเภทที่มีแป้ง ประเภทนี้ ร่างกายจะสามารถย่อยได้หมด จนเป็นน้ำตาลกลูโคสหน่วยย่อยๆ หลายๆตัว ซึ่งทำให้น้ำตาลในเลือดขึ้นสูง ถ้าคุณกิน “ปริมาณ” มากจนเกินไป จึงทำให้น้ำตาลในเลือดขึ้นสูงได้
วิธีเลือกคาร์โบไฮเดรตที่ดีต่อร่างกาย ให้เลือกคาร์โบไฮเดรต ที่มีเซลลูโลส หรือ เส้นใยมากๆ เพราะนอกจากจะได้วิตามินแล้ว เซลลูโลส จะช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่หลอดเลือด เนื่องจากลำไส้ย่อยได้อาหารที่มีเส้นใยมาก ได้ช้ากว่าอาหารที่เส้นใยน้อยนั่นเอง ซึ่งเป็นประโยชน์มากสำหรับเบาหวาน
เมื่อลดแป้ง หรือลดอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตลงแล้ว ให้คุณมาเน้นการทาน “กับข้าว” ให้มากกว่าข้าว โดยเพิ่มสารอาหารกลุ่ม โปรตีน เช่น เนื้อสัตว์ทุกชนิด ไข่ ถั่ว เต้าหู้ รวมถึงไขมันดี เช่น น้ำมันมะกอก อะโวคาโด ปลาทะเลน้ำลึก
หลังจากที่หายเบาหวานแล้ว คุณก็ปรับสารอาหารทุกอย่าง ให้กลับมาอยู่ในปริมาณที่สมดุลดังเดิม
2.รู้จักการจัดการเวลาอาหาร หรือ การทำ Intermittent Fasting (IF)
การปรับเวลาอาหารใหม่ จะช่วยให้ลดน้ำตาลได้ตามธรรมชาติ เนื่องจากร่างกายจะดึงน้ำตาลจากเลือด รวมถึง น้ำตาลที่สะสมเป็นส่วนเกินอยุ่ในร่างกายคุณ นำไปใช้ ยามที่คุณไม่ทานอาหาร การปรับเวลาด้วย IF คุณจะต้องจัดการเวลา ให้ใน 24 ชั่วโมง มีช่วงระยะเวลาที่คุณทานอาหาร สั้นกว่า ช่วงที่คุณไม่ได้ทานอาหาร แล้วในช่วงที่ไม่ทาน ร่างกายจะนำน้ำตาลส่วนเกินไปใช้
IF คือทางด่วนในการลดเบาหวาน จากแต่ก่อนที่คุณกินอาหารอยู่ทั้งวันกินเช้า กินเที่ยง กินเย็น แถมด้วยก่อนนอน ร่างกายคุณสะสมน้ำตาล และไขมันอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้ร่างกายป่วย และเกิดโรค แต่การปรับช่วงเวลาการกิน ให้ร่างกายได้พักการสะสมน้ำตาล มีช่วงที่ไม่กิน ยาวนานขึ้นกว่าช่วงที่ไม่กิน เพื่อที่จะให้ร่างกาย ได้ปล่อยพลังงานสะสมส่วนเกิน ทั้งน้ำตาลและไขมันส่วนเกินของร่างกาย มาเผาผลาญทิ้งไป จึงทำให้น้ำตาลในเลือดลดลงได้ไวมากขึ้น เป็นการจัดการกับเวลาที่คุณกินในแต่ละวัน
การทำ IF นั้นยืดหยุ่น สามารถปรับได้ ไม่จำเป็นต้องทำเหมือนกันทุกวัน แต่ขอให้มีช่วงเวลาที่ไม่กิน ยาวนานกว่าช่วงเวลาที่กิน เช่น จากเดิม เคยกินเวลา 8.00/12.00/20.00 เท่ากับ ช่วงการกิน มีอยู่ 12ชั่วโมง ไม่กิน 12 ชั่วโมง แบบนี้ก็ได้เท่าทุนใช่ไหมคะ อาจจะปรับใหม่ เช่น กินมื้อแรกสายขึ้นหน่อย เป็น 9.00 หรือกินมื้อสุดท้ายไวขึ้นหน่อย เป็น 17.00 แบบนี้ ก็จะเท่ากับ ร่างกายสะสมน้ำตาลอยู่ 8 ชั่วโมง ในช่วงเวลาที่กิน และเผาผลาญน้ำตาล ได้ 18 ชั่วโมงเลยทีเดียว ซึ่งการจะปรับเวลาเป็นแบบใด ก็แล้วแต่ชีวิตประจำวันของคุณ ขอให้มีกำไร ก็ใช้ได้แล้วค่ะ
3.รู้วิธีซ่อมแซมระบบเผาผลาญของร่างกาย
นั่นคือการสร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ ให้เผาผลาญน้ำตาลได้เป็นปกติ และไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำอีก ในแต่ละปี ที่คุณมีอายุมากขึ้น กล้ามเนื้อที่เปรีบเสมือนเตาเผาผลาญพลังงาน เผาผลาญทั้งน้ำตาล และไขมัน แต่พอมีอายุมากขึ้น กล้ามเนื้อน้อยลงปีละ 1% ซึ่งเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นกับทุกคนค่ะ แม้แต่นักกีฬา หรือคนที่เล่นกล้าม เพราะมันคือธรรมชาติของความเสื่อมตามวัย เหมือนกับที่คุณเห็นในผู้สูงอายุ ที่กล้ามเนื้อฝ่อลีบลง ตัวเล็กลงนั่นแหละค่ะ แต่คุณสามารถชะลอความเสื่อมของกล้ามเนื้อนี้ลงไปได้ เมื่อคุณออกกำลังกายแบบมีแรงต้าน (Resistance Training) ซึ่งเป็นการออกกำลังกายที่ช่วยฝึกกล้ามเนื้อให้แข็งแรง และช่วยเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อ ชะลอความเสื่อมลงไปได้ ซึ่งเป็นวิธีที่ป้องกันเบาหวานชนิดที่2 ไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำได้ด้วยค่ะ
เมื่อคุณใช้ชีวิตอย่างมีความรู้ความเข้าใจ เพื่อให้สุขภาพดีไปตลอด สามารถลดน้ำตาลได้ ทำให้ทั้งเบาหวาน ความดัน ไขมัน ก็หายและไม่กลับมาเป็นซ้ำค่ะ
ศึกษาความรู้เพิ่มเติม วิธีการรักษาเบาหวานโดยไม่ใช้ยา จาก 3 VDO นี้
>>>> https://sugarfreedomth.com/3secrets/
ที่มาของข้อมูล :
Remission = โรคสงบ นั่นหมายความว่า คุณสามารถหายได้โดยไม่ต้องใช้ยาใดๆ เพียงแค่ใช้ชีวิตอย่างมีความรู้แบบคนสุขภาพดีไม่มีโรค แต่ถ้าหากคุณกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิม ก่อนเป็นเบาหวาน ทานน้ำตาล ทานแป้งเยอะเกิน ไม่ออกกำลังกาย ไม่สร้างกล้ามเนื้อเลย ก็มีโอกาสกลับเป็นซ้ำได้ค่ะ แต่หากคุณซ่อมแซมระบบเผาผลาญน้ำตาลเอาไว้รอ ตามที่หมอปอแนะนำ ก็กลับเป็นซ้ำได้ยากค่ะ
#หมอปอเบาหวาน #หมอปอSugarFreedom